Samutsongkhram - Amphawa Floating Market (Dec'08)

 15 March 2009

จังหวัดสมุทรสงคราม ตลาดน้ำอัมพวา จ.สมุทรสงคราม
" เมืองหอยหลอด ยอดลิ้นจี่ มีอุทยาน ร.๒ แม่กลองไหลผ่าน นมัสการหลวงพ่อบ้านแหลม "

การเดินทางโดยทางรถยนต์

จากกรุงเทพฯ ไปทางถนนพระราม 2 หรือเรียกว่าถนนธนบุรี-ปากท่อ (ทางหลวงหมายเลข 35) ไปจนถึงหลัก กม.ที่ 63 ชิดซ้ายใช้ทางคู่ขนานต่างระดับ เข้าตัวเมืองสมุทรสงคราม ถึงสี่แยกเลี้ยวขวา เลี้ยวซ้ายข้ามทางรถไฟ เลี้ยวขวาถึงสามแยกไฟแดงเลี้ยวซ้ายวิ่งตรงไปประมาณ 6 กม. ถึงสามแยกอัมพวาชิดซ้ายเข้าอัมพวา วิ่งตรงผ่านตลาดอัมพวา ข้ามสะพานคลองอัมพวา(สะพานเดชาดิศร) จะเห็นซุ้มประตูวัดทางเข้าอยู่ซ้ายมือ  สามารถจอดรถในวัดได้ ถ้ายังไม่เต็ม ถ้าขับรถเลยไปอีกประมาณ 200 เมตร ก็จะถึงอุทยาน ร.2 อยู่ทางซ้ายมือ

อาสนวิหารแม่พระบังเกิด (วัดบางนกแขวก) ตั้งอยู่ที่หมู่ที่ 7 ตำบลบางนกแขวก โบสถ์นี้ สร้างขึ้นตั้งแต่ปีพ.ศ. 2433 (ค.ศ. 1890) ใช้เวลาสร้าง 6 ปีจึงเสร็จ โดยบาทหลวงเปาโลซัลมอน มิชชันนารีชาวฝรั่งเศส เปิดอย่างเป็นทางการในวันที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2439 (ค.ศ. 1896) เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของชาวคริสตชนเพื่อมาสักการะและร่วมทำพิธีทางศาสนา

การเข้าชมภายในโบสภ์ต้องแจ้งให้เจ้าหน้าที่ทราบก่อนหรือ ถ้าต้องการวิทยากรบรรยาย สามารถติดต่อบาทหลวงผู้ดูแลได้
โทร. 0 34761347
การเดินทาง ไปตามเส้นทางสายสมุทรสงคราม-บางนกแขวก (เส้นทางเดียวกับอุทยาน ร. 2) เข้าไปประมาณ 5 กิโลเมตร
อาสนวิหารแม่พระบังเกิดอยู่เลยแยกสะพานสมเด็จพระอัมรินทร์ไปประมาณ 100 เมตร (ข้อมูลจาก ททท)

 





ประตูทางเข้า หน้าโบสถ์


พระแท่นสำหรับทำพิธีมิซซา   และเพดานภายในโบสถ์    
ที่นั่งสำหรับคริสตชนที่มาร่วมพิธีในโบสถ์ พระแท่นสำหรับทำพิธีมิซซา 
และเพดานภายในโบสถ์    
ที่สำหรับให้พระสงค์เทศน์ในวันทำมิซซา 
รูปปั้นพระแม่มารีอาอุ้มกุมารพระเยซู และรูปปั้นเทวดาอาสนวิหารแม่พระบังเกิด เป็นสถาปัตยกรรมแบบโกธิค ประเทศฝรั่งเศส ภายในประดับด้วยกระจกสี มีลวดลายต่างๆ เป็นภาพครอบครัวของพระเยซู พระแม่มารีอา และภาพนักบุญต่างๆ มีสีสวยสดงดงาม

   บรรยาศภายนอกรอบๆ โบสถ์




แวะกินอาหารกลางวันที่ร้าน บ้านสวนริมน้ำ เป็นร้านที่ชาวบ้านแถวนั้น แนะนำให้มากิน อาหารก็อร่อยดี และราคาถูก แถมเป็นร้านตั้งอยู่ริมน้ำ นั่งคอยอาหารลมพัดเย็นสบาย

 
ไข่เจียวปู ต้มยำกุ้ง และแกงคั่วหอยขมยอดมะพร้าวอ่อน          ระหว่างรออาหารก็ชมวิวแม่น้ำแม่กลองไปพลางๆ

อุทยานพระบรมราชานุสรณ์ พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย
(King Rama II Memorial Park )
ตั้งอยู่ที่ ตำบลอัมพวา อำเภออัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม
อุทยานฯ เปิดให้เข้าชมทุกวัน เวลา 09.00 – 18.00 น. (อัตราค่าเข้าชม เด็ก 5 บาท ผู้ใหญ่ 20 บาท)
พิพิธภัณฑ์เปิด เวลา 09.00 – 17.00 น.


 
ใต้บ้านทรงไทยหลังนี้จะมีพันธ์ต้นไม้ และกล้วยไม้ขาย แต่ราคาอาจจะแพงกว่าร้านข้างนอกเล็กน้อย

พิพิธภัณฑ์พระพุทธเลิศหล้านภาลัย พิพิธภัณฑ์ เป็นบ้านทรงไทย 4 หลัง พื้นที่รวมประมาณ 600 ตารางเมตร จัดพิพิธภัณฑ์แบบชาติพันธุ์วิทยา แสดงศิลปวัตถุในสมัยต้นรัตนโกสินทร์ ลักษณะศิลปวัฒนธรรม ความเป็นอยู่ และการดำรงชีวิตของชาวไทยในสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย

 
 
ชานเรือน จัดตามแบบบ้านไทยโบราณ ตกแต่งด้วยกระถางไม้ดัด ไม้ประดับ และอ่างบัว

Ampawa Floating Market

เป็นตลาดริมคลองอัมพวา ตั้งอยู่ใกล้วัดอัมพวันเจติยาราม (จอดรถที่วัดอัมพวันเจติยารามได้) ตลาดมีทุกวันศุกร์ เสาร์และอาทิตย์ เริ่มเวลาเย็นตั้งแต่เวลา 15.00 - 21.00 น. จะมีพ่อค้าแม่ค้าพายเรือในคลองอัมพวาขายอาหารและเครื่องดื่ม มีสารพันอาหารเช่น ก๋วยเตี๋ยว หมึกย่าง หอยทอด กาแฟ โอเลี้ยง ขนมหวานต่างๆ  นักท่องเที่ยวสามารถเดินเที่ยวชมตลาดในบรรยากาศแดดร่มลมตกแบบสบายๆ

 
บนสะพาน ถนนเลียบนที  
ขนมไทยหน้าตาดี ดูน่ากิน ขนมหม้อแกง สังขยา กล้วยปิ้ง ขนมหนู ขนมวง กุ้งหวาน


ร้านค้าขายของที่ระลึก (ขนมกินเล่นสมัยเด็ก)

 
ร้านกาแฟสมานการค้า เดินมาเหนื่อยๆ ได้นั่งพักดื่มกาแฟเย็นสักแก้ว ชื่นในจริงๆ





 
ร้านขายของที่ระลึก มี post card สวยๆ เขียนแล้วส่งลงกล่องไปรษณีย์ให้คนที่คิดถึงได้ทันที

สะพานข้ามระหว่างฝั่งคลองอัมพวา
"ชุมชนอัมพวา" ได้รับประกาศเป็น  "มรดกแห่งเอเชีย"
UNESCO Asia-Pacific Heritage Award 2008

ประตูไม้บานเฟี้ยมแบบโบราณ ก็ยังคงมีให้เห็นอยู่บ้าง ประตูไม้เก่าๆ ดูๆ ก็ คลาสสิคดีเหมือนกัน
ดูๆ ไปแล้วที่เราก็มีเหมือนกัน อยู่ที่บ้านเก่าของพ่อ-แม่ แต่เป็นประตูที่อยู่ภายในห้อง


บรรยากาศ guest house ที่อัมพวา เรียบง่าย น่ารักดี



แวะเยี่ยมบ้านครูเอื้อ สุนทรสนาน ตั้งอยู่เลขที่ 193-195 ริมคลองอัมพวา ตำบลอัมพวา ใกล้ตลาดน้ำอัมพวา ก่อตั้งโดยมูลนิธิสุนทราภรณ์ โดยการนำบ้านไม้โบราณ ริมคลองอัมพวา อันเป็นถิ่นกำเนิดของครูเอื้อ สุนทรสนาน เมื่อเกือบ 100 ปีที่แล้ว เป็นพิพิธภัณฑ์จัดแสดงนิทรรศการประวัติผลงานของครูเอื้อ เป็นศูนย์รวมข้อมูล  เรื่องราวของเพลงสุนทราภรณ์ตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน เปิดให้แฟนเพลงเข้าไปนั่งฟังเพลง สำหรับบุคคลทั่วไปที่สนใจค้นคว้า  นอกจากนี้ยังได้แสดงของใช้ส่วนตัวของครู เอื้อ และภาพเก่า ๆ ที่หาชมได้ยาก รวมทั้งจำหน่ายของที่ระลึกและผลงานเพลงของครูเอื้อ สุนทรสนาน
บ้านครูเอื้อ เป็นส่วนหนึ่งใน "โครงการอนุรักษ์ภูมิปัญญาท้องถิ่นชาวอัมพวา" ของมูลนิธิชัยพัฒนา ในสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารีฯ ด้วย
บ้านครูเอื้อ อัมพวา เปิดวันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดราชการเวลา 11.00-20.00 น. สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่  http://www.websuntaraporn.com/suntaraporn/home/


โครงการชัยพัฒนานุรักษ์ http://www.amphawanurak.com/index.php
สมเด็จ พระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินมาทรงเปิดโครงการอัมพวา ชัยพัฒนานุรักษ์ และทรงติดตามความก้าวหน้าในการดำเนินโครงการฯ โดยมีรายละเอียดดังนี้
นาง สาวประยงค์ นาคะวะรังค์ ได้น้อมเกล้าฯ ถวายที่ดินประกอบด้วย สวนผลไม้ เรือนแถวไม้ริมคลองอัมพวาและบ้านพักอาศัย จำนวน 5 แปลง พื้นที่รวม 21 ไร่ 12 ตารางวา ในตำบลอัมพวา อำเภออัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม เพื่อใช้ประโยชน์ในกิจกรรมของมูลนิธิชัยพัฒนา ซึ่งสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้พระราชทานพระราชดำริให้สำนักงานมูลนิธิชัยพัฒนา นำที่ดินไปพัฒนาและอนุรักษ์เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อชุมชน และได้พระราชทานนามโครงการแห่งนี้ว่า โครงการอัมพวา ชัยพัฒนานุรักษ์

ภายในบริเวณนี้ที่ร้านขายของที่ระลึก ขนมไทย ปลาทู กาแฟ
รอบๆ บริเวณนี้ถูกจัดไว้อย่างเป็นระเบียบ สวยงาม เดินเที่ยวชม หาซื้อของฝากสวยๆ ได้
และมีห้องน้ำ บริการให้ด้วย


บริเวณด้านหลังของ โครงการพัฒนานุรักษ์ ทำท้องร่องสวน
เป็นที่ให้นักท่องเที่ยวได้มา เดิน นั่ง พักผ่อน กินอาหาร หรือกาแฟ อร่อยๆ ได้กันตามอัธยาศัย


หัวโขน และเศียรครู นำมาแสดงจาก "ศูนย์สาธิตศิลปะกาทำหัวโขนและเศียรครู" 
สถาน ที่อีกแห่งหนึ่งที่สำคัญในวัดประดู่ก็คือ "ศูนย์สาธิตศิลปะการทำหัวโขนและเศียรครู(หอศิลป์)" สร้างเมื่อ พ.ศ.2548 เพื่ออนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมต่างๆ เป็นมรดกล้ำค่าเพื่อให้เป็นมรดกของลูกหลาน หอศิลป์แห่งนี้เปิดให้ชุมชนและประชาชนทั่วไปสามารถเข้ามาศึกษาขั้นตอนการทำ และการฝึกทำหัวโขนและเศียรครู โดยมีหลักสูตรการเรียนรู้จากผู้ชำนาญของศูนย์ เป็นบุคคลในชุมชนวัดประดู่ที่ได้เล่าเรียนและศึกษา จากผู้ที่มีความรู้ในเรื่องการทำหัวโขนและเศียรครูโดยตรง