Chiangrai - Phu She Fah & Doi Tung

 
การเดินทางสู่ภูชี้ฟ้า - ดอยตุง จ.เชียงราย
(17 - 21 มกราคม 2544)


วันพุธที่ 17 มกราคม ประมาณสองทุ่มเราออกเดินทางจากกรุงเทพฯ มีสามาชิกทั้งหมด 9 คน พี่ปอง พี่สะอาดจิต พี่โอ พี่อมรา พี่แดง พี่หมวย พี่ใหญ่ (หัวหน้าทัวร์) และจอย.....คุณเล็กเป็นพลขับ
วันพฤหัสบดีที่ 18 มกราคม  ตีสี่ครึ่ง ถึง จ.พะเยา เราแวะล้างหน้าแปรงฟัน เข้าห้องน้ำที่ปั๊มแล้วไปตลาดเพื่อทานโจ๊ก ปาท่องโก๋ที่อร่อยๆ กันที่ร้านบุญชู

หกโมงครึ่งกว่าๆ ถึงวัดอนาลโย ขึ้น ไปบนภูตะวัน(ดอยบุษราคัม) วิวสวยงามมาก เราถ่ายรูปรอพระอาทิตย์ขึ้น อากาศสดชื่น...เมื่อยืนบนยอดเขา มีพรรณไม้หลายหลายพันธุ์ ต้นโป๊ยเซียนมี่ดอกใหญ่
หลายสี ทิวสนเรียงราย เราเดินชมตำหนักที่ประทับของราชวงค์ และสมเด็จพระสังฆราช





เราเดินรับอรุณกันลงมาพบต้นไม้มีดอกสวยชื่อ "สาวสันทราย"  หรือ "ราชินีสันทราย" หรือ
"สาวน้อยสันกำแพง" หรือ "จรกา"



  ระหว่างทางนั่งรถจะลงมาข้างล่าง พบต้นสุพรรณิการ์ (ฝ้ายคำ) กำลังออกดอกเหลืองอร่าม
อดใจไม่ได้จะต้องลงมาถ่ายรูป ไหนๆ ก็มาแล้ว  โอกาสที่จะมาอีกนั้นยาก...

 เดินทางไปกราบนมัสการท่านอาจารย์ไพบูลย์ที่กุฏิท่าน ได้ร่วมกันทำบุญ ท่านอาจารย์เมตตามาก อนุญาตให้เราได้ถ่ายรูปด้วย ละอนุญาตให้เดินชมรอบๆ บริเวณวัด ท่านแจกหนังสือสวดมนต์และปฎิทิน ท่านได้ออกไปธุระก่อน และอนุญาตให้เราได้ถ่ายรูปรอบๆ กุฎิของท่าน



 แวะทานเข้าเที่ยงริมกว๊านพะเยา ก๋วยเตี๋ยวน้ำ...หมูสะเต๊ะ...
เที่ยงครึ่งแวะวัดศรีโคมคำ กราบนมัสการพระเจ้าตนหลวง แล้วเดินทางต่อ ผ่านกว๊านพะเยา

น้ำตกภูซาง
ช่วงบ่ายเดินทางถึงน้ำตกภูซาง แวะถ่ายรูปกันที่น้ำตกภูซาง เป็นน้ำตกอุ่นแห่งเดียวในประเทศไทย
บริเวณน้ำตกอยู่ใกล้ถนน มีลูกเสือ เนตรนารีมาตั้งแคมป์กัน ผู้คนมากมาย แต่ไม่ค่อยประทับใจ
จึงใช้เวลาน้อยมาก ...ว่าแล้วเราก็ออกเดินทางกันต่อ

ศูนย์ส่งเสริมการเกษตรที่สูงดอยผาหม่น
บ่ายสองเดินทางไปศูนย์ส่งเสริมการเกษตรที่สูงดอยผาหม่น บ้านร่มโพธิ์ไทย ต.ตับเต่า อ.เทิง จ.เชียงราย  




 แวะถ่ายรูปกับต้นไม้และดอกไม้สวยๆ ...อย่างดอกทิวลิปที่กำลังบานได้ที่
และดงดอกอาซาเลียสีชมพูสวยมาก...มีหน้าของพวกเราไปแอบอิงอย่างมีความสุข

กองอนุรักษ์ต้นน้ำหงาว "ภูชี้ฟ้า"
เดินทางถึงที่พัก "กองอนุรักษ์ต้นน้ำหงาว" ประมาณห้าโมงเย็น ติดต่อเรื่องห้องพักตามที่ได้ทำหนังสือขอบ้านพักไว้ล่วงหน้า และจัดการสั่งอาหารเย็นไว้เลย เราได้อาบน้ำกันเสียทีด้วยน้ำเย็นเฉียบเพราะอากาศค่อนข้างหนาวมาก สองทุ่มครึ่งเราเข้านอน หลับสบายเพราะเดินทางกันทั้งวันทั้งคืน และจะต้องตื่นเช้า....เพื่อไปดูพระอาทิตย์ขึ้น

วันศุกร์ที่ 19 มกราคม  ตีห้าสี่สิบเราพร้อมออกเดินทาง กลุ่มอื่นๆ เขาไปกันแล้ว  เดินทางประมาณ 800 เมตร กว่าจะถึงก็เหงื่อตก...ทางเดินมืดมาก







 





ถ่ายรูปกันเพลิน จนพระอาทิตย์ขึ้น และหมอกจางได้มุมสวยเห็นเป็นสิงโตเหมือนอ้าปากหาว...
หรือคำราม  และทะเลหมอกยามเช้าสวยสุดๆ
 ถ่ายรูปหน้าบ้านพักเป็นที่ระลึก ก่อนออกเดินทาง


   ออกเดินทางจากภูชี้ฟ้า เดินทางไปบ้านผาตั้ง เดินทางลงมาเรื่อยๆ แวะชมทิวทัศน์กันมาตลอด
มีต้นนางพญาเสือโคร่งหรือ ากุระเมืองไทย และดอกเสี้ย วให้ชมตลอดทาง 
แวะถ่ายรูปเป็นระยะๆ (ไปเที่ยวกันมาจนรู้ใจ...พวกบ้าถ่ายรูป)

   แวะ "บ้านร่วมฟ้าทอง" มี่ศูนย์ศิลปาชีพแม่ฟ้าหลวง ขายของท้องถิ่นที่ระลึก

ผาบ่อง
แวะเที่ยวผาบ่อง ช่องประตูสยามสู่ลาว ขึ้นไปบนเขาสูงจากน้ำทะเล 1,635 เมตร มีพระพุทธรูปประดิษฐานอยู่ มองลงมาข้างล่างต้นนางพญาเสือโคร่งหรือซากุระเมืองไทย กำลังออกดอกสวยงาม



 เส้นทางที่จะไปบ้านผาบ่องมี ดอกนางพญาเสือโคร่ง สีชมพูสวยๆ เป็นระยะๆ

พระบรมธาตุเจดีย์ศรีนครินทราสถิตมหาสันติคีรี
พระบรมธาตุเจดีย์ศรีนครินทราสถิตมหาสันติคีรี ตั้ง อยู่บนยอดสูงสุดของดอยแม่สลอง ห่างจากหมู่บ้านสันติคีรีประมาณ 4 กม. พระบรมธาตุเจดีย์ฯ ตั้งอยู่บนยอดสูงสุดที่ระดับความสูง 1,500 ม. เหนือหมู่บ้านสันติคีรี มีถนนลาดยางตัดขึ้นไปยังพระบรมธาตุเจดีย์ฯ แต่ถนนสูงชันคดเคี้ยวมาก พระบรมธาตุเจดีย์ฯ....ที่ตั้งของพระบรมธาตุเจดีย์ฯ เป็นจุดสูงสุดของเทือกดอยแม่สลอง จึงชมทิวทัศน์ได้กว้างไกล โดยเฉพาะในยามเย็นจะมีความสวยงามมาก   ขณะเดียวกันองค์พระบรมธาตุเจดีย์ฯ ยังเด่นเป็นสง่ามองเห็นแต่ไกล เป็นสัญลักษณ์อีกอย่างหนึ่งของดอยแม่สลอง



สวนสมเด็จย่าแม่ฟ้าหลวง
วันเสาร์ที่ 20 มกราคม  ออกเดินทางไปสวนสมเด็จย่าแม่ฟ้าหลวง การเดินทางค่อนข้างจะวกไปวนมาออกอาการเมารถ สิบโมงครึ่งถึงที่หมาย ตะลุยถ่ายรูปกัน ดอกไม้สวยๆ หลากสีสรร...ผู้คนล้านแปดมาจากไหนกันไม่รู้ ทั้งๆที่ไม่ใช่เทศกาลวันหยุด

 







ขึ้นไปนั่งชิงช้าสวรรค์แบบของชาวเขา มีชาวเขาคอยหมุนให้ สนุกแบบกลัวๆ...กลัวตกลงพื้นมาก

พระตำหนักดอยตุง
 ขึ้นไปที่พระตำหนักดอยตุง สถานที่นี้เปิดให้ชมเป็นรอบๆ ระหว่างรอเราก็ถ่ายรูปกันอยู่รอบนอก  เมื่อถึงเวลามีเจ้าหน้าที่จะนำเข้าไปชมในพระตำหนัก  ในส่วนที่เป็นระเบียงมีการปลูกต้นไม้ดอกไม้สวยงาม
ส่วนในห้องของ สมเด็จย่า เรามองผ่านกระจกเข้าไปเห็นห้องบรรทม ห้องทรงอักษร...จากพระตำหนักดอยตุงใช้เวลา 15 นาทีขึ้นไปวัดพระธาตุดอยตุง กราบพระแล้วเดินทางต่อเพื่อไปดอยช้างมูบ



  
ดอยช้างมูบ (สวนรุกขชาติแม่ฟ้าหลวง)

บ่ายสามถึงดอยช้างมูบ (สวนรุกขชาติแม่ฟ้าหลวง) เดินชมสวนดอกไม้ที่กำลังปลูก ที่นี้เป็นสถานที่เพาะพันธุ์ไม้ต่างๆ เจ้าหน้าที่กำลังทำงานกันอยู่แต่ละจุด ที่นี่มีเราเพียงกลุ่มเดียวเท่านั้น...
ถ่ายรูปกันอย่างสำราญใจจนลืมเวลา







อุทยานแห่งชาติดอยหลวง "น้ำตกปูแกง"
หกโมงเย็นถึงอุทยานดอยหลวง นอนค้างที่นี่หนึ่งคืน  เสาร์ 21 มกราคม  เราตื่นเช้ารับอากาศบริสุทธิ์ เตรียมตัวพร้อมออกลุยไปดูพระอาทิตย์ขึ้นบนเขา พร้อมคณะเจ้าหน้าที่ของ ททท. ที่มาทำสารคดี....แสนจะดีใจที่พวกเราได้ตามไปด้วย....นั่งรออยู่นานแต่ปรากฏ ว่าพระอาทิตย์ไม่ยอมออกมาให้พวกเราได้เห็น
เก้าโมงออกเดินทางไป"น้ำตกปูแกง" เราเดินกันไปเรื่อยๆ น้ำตกมี่ 9 ชั้น น้ำตกปูแกงเป็นน้ำตกหินปูน ไม่ลื่น เล่นน้ำตกกันเพลิน ทางที่เดินลงมาพบดงมอส"ไลเคนเขียว"สด และสวยมาก
แวะถ่ายรูปกันตลอดทาง










หกโมงเย็นถึง จ.พิษณุโลก ทานอาหารเย็นที่ร้านแพฟ้าไทย  เดินทางกลับถึงกรุงเทพฯ เที่ยงคืน ทริปนี้กินอยู่สบายๆ เปลี่ยนที่นอนทุกคืน เน้นถ่ายรูป พวกเรามีความสุขในการที่ได้เปลี่ยนบรรยากาศจากการทำงานไปเที่ยวเชิงอนุรักษ์ ได้เห็นสิ่งสวยงามสบายตา สบายใจ อะไรที่ไม่ใช่การทำงานนั่นคือความสุข...ถึงแม้จะต้องเปลี่ยนที่นอนทุกคืนต้องขอขอบคุนพี่ใหญ่...ผู้นำทัวร์ที่จัดให้ตามคำขอของพวกเรา
และพี่อมรา...ที่ช่วยจดบันทึกการเดินทางในครั้งนี้  :D